ในโลกของการทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแบบใด คนส่วนใหญ่ก็สนใจอยู่เพียงเรื่องผลกำไรเท่านั้น ผู้คนต่างหาวิธีที่จะทำอย่างไรให้สินค้าขายได้และลดต้นทุนการผลิตให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนบางครั้งธุรกิจใหญ่ๆส่งผลกระทบไปยังสิ่งแวดล้อม จากการตัดต้นไม้ทำลายป่าเพื่อขยายพื้นที่โรงงานของตัวเอง การใช้พลังงานที่เป็นผลร้ายกับโลก เช่น ถ่านหิน หรือการปล่อยแก๊สเรือนกระจก จนทำให้โลกเข้าสู่ภาวะโลกร้อน จากเหตุการณ์เหล่านี้ก็ได้กลุ่มคนที่สร้างแนวคิดขึ้นมาใหม่ที่อยากทำธุรกิจที่เป็นนวัตกรรมบวก เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่สนใจในเรื่องของตัวเลขกำไร ขาดทุนเพียงอย่างเดียว หากกล่าวถึงเรื่องการลงทุนธุรกิจก็เหมือนกับการลุ้นผลบอลสดที่ผลลัพธ์สามารถออกได้ทุกทางควบคู่กับความเสี่ยง จึงทำให้ผู้คนต่างคำนึงถึงแต่ผลประโยชน์โดยไม่นึกผลเสียที่จะตามมา วันนี้เรามีตัวอย่าง 5 ธุรกิจที่น่าสนใจมาบอกต่อ เพื่อที่จะเป็นตัวอย่างที่ดี หากใครที่อยากเริ่มทำธุรกิจเรื่องของสิ่งแวดล้อมเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ผู้คนต่างให้ความสนใจมากในขณะนี้
Tesla (ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า)
ในนาทีนี้คงไม่มีใครเคยได้ยินชื่อของ Elon Musk มหาเศรษฐียอดอัจฉริยะที่เป็นคนพลิกโฉมนวัตกรรมรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าให้เกิดขึ้นได้จริง เพราะเขามีความเชื่อว่าพลังงานไฟฟ้าจะช่วยลดการปล่อยมลพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ จากรถที่ชับเคลื่อนด้วยพลังน้ำมัน เพราะปัญหามลพิษ เช่น ฝุ่น PM 2.5 และแก๊สเรือนกระจกมักเกิดขึ้นจากการเเผาไหม้ของเครื่องยนต์แบบเก่า จากเหตุผลนี้เองทำให้ Tesla เอาจริงกับการสร้างรถยนต์ที่ใช้แค่พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว วางจำหน่ายในประเทศสหรัฐฯ ทำให้มีคนสนใจจำนวนมากทั้งในส่วนของผู้บริโภค
Freitag (ธุรกิจแฟชั่นรีไซเคิล)
เป็นเวลายาวนานกว่า 28 ปีที่ Freitag แบรนด์แฟชั่นสุดเท่ ได้เฉิดฉาดออกแบบสินค้าให้ผู้คนได้เลือกซื้อ โดยมีจุดกำเนิดจากสองพี่น้อง Danial และ Markus Freitag ที่เกิดไอเดียง่ายๆจากการปั่นจักรยานไปทำงานในวันที่ฝนตก แล้วได้เห็นรถบรรทุกที่คลุมผ้าใบไว้แล้วทำให้สินค้าไม่เปียก แล้วทำไมไม่มีกระเป๋าแบรนด์ไหนทำแบบนี้เพื่อป้องกันน้ำฝนบ้างเลย จากไอเดียที่ว่านี้จึงทำให้สองพี่น้อง ตระกูล Freitag อยากทำกระเป๋าใช้เอง จากการหยิบผ้าใบรถบรรทุก สายคาดเข็มขัดนิรภัยรถที่ใช้แล้ว และสายยางในของจักรยานเก่า มาสร้างเป็นกระเป๋าเพื่อใช้งาน จนทำให้มีผู้คนสนใจในกระเป๋ามากขึ้นจนถึงในปัจจุบันนี้
Mosameat (ธุรกิจอาหารทดแทน)
จากวิกฤตโลกร้อน และพฤติกรรมการบริโภคเกินพอดี ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนอาหารในหลายๆประเทศ จึงทำให้ผู้คนกลุ่มหนึ่งตระหนักว่าถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่อาจทำให้เกิดปัญหาความอดอยากระดับโลกขึ้นมาได้ เลยมีบริษัทสตาร์ทอัพที่ชื่อว่า Mosameat ที่ทำธุรกิจด้านอาหารที่เกิดจากการทดลองปลูกถ่ายเนื้อในห้องทดลอง เพื่อช่วยลดปัญหาในเรื่องของการขสดแคลนอาหาร และยังช่วยลดแก๊สเรือนกระจกจากปัญหาการทำปศุสัตว์อีกด้วย
Happi (ธุรกิจเพื่อลดปัญหาขยะย่อยสลายยาก)
ปัญหาใหญ่ของผู้หญิงที่ต้องพบเจอทุกเดือนคือการเป็นประจำเดือนที่ต้องใช้ผ้าอนามัยในจำนวนมากก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการเพิ่มขยะ ส่งผลโดยตรงในเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ทุกวันนี้ต้องเผชิญกดับขยะบางประเภทที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยการย่อยสบายของมันเอง แล้วการเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆต่อวัน มักทำให้เกิดปัญหาของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละเดือน จากปัญหาเหล่านี้ได้มีบริษัทของคนไทยที่ชื่อว่า Happi ได้สร้างสรรค์นวัตกรรม ถ้วยอนามัย เพื่อลดการใช้ผ้าอนามัยในปริมาณมาของแต่ละเดือน เพราะถ้วยอนามัยนี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ และมีอายุเฉลี่ยของสินค้าที่สูงถึง 10 ปี
P&G (ธุรกิจเพื่อแก้ปัญหามลพิษในน้ำ)
บนโลกของเรามีประชากรจำนวนหลักหลายล้านคนที่ไม่มีโอกาสได้เข้าถึงการดื่มน้ำที่สะอาด และตามเเฉลี่ยแล้วในทุกวันมีคนมากถึง 1,000 คนต้องเสียชีวิตเพราะโรคร้ายที่มากับน้ำ เพราะปัญหามลพิษที่แพร่กระจายในสิ่งแวดล้อมทำให้ผู้คนมีสุขภาพดีจากการดื่มน้ำสะอาดที่น้อยลงทุกวัน แต่จากประเด็นเหล่านี้ทำให้ทางบริษัท P&G ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ชื่อว่า Purifier of Water หรือที่เรียกว่า ผงเปลี่ยนน้ำให้สะอาด ที่จะเปลี่ยนน้ำที่ปนเปื้อนไปด้วยมลพิษต่างๆ ให้สะอาดขึ้นจนอยู่ในระดับที่สามารถดื่มกินได้ โดยต้นทุนเฉลี่ยอยู่ที่เพียงแค่ซองละ 3 บาทเท่านั้นเอง